ส่งข้อความถึงเรา

ได้ ต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นได้โดยไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมายเรื่องสัญชาติหรือถิ่นที่อยู่ (ถือวีซ่า 15 วันก็สามารถซื้อได้ เนื่องจากวีซ่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาฯ ในญี่ปุ่น) ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไม่ว่าจะซื้อเพื่อการลงทุนหรือเพื่อพักอาศัยเอง ข้อกำหนดเรื่องการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ไม่แตกต่างจากพลเมืองญี่ปุ่น ดังนั้น หากมีความพร้อมด้านการเงิน ต่างชาติสามารถดำเนินการซื้อได้โดยไม่ต้องมีถิ่นพำนักถาวรหรือวีซ่าระยะยาว

การซื้อเริ่มจากการติดต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เช่น ชินยู เพื่อแจ้งงบประมาณ ทำเล ขนาด และวัตถุประสงค์ (ซื้อเพื่ออยู่เองหรือลงทุน) จากนั้นบริษัทจะเสนออสังหาฯ ที่เหมาะสม พร้อมนัดเยี่ยมชมโครงการ  เมื่อพอใจจึงทำข้อเสนอราคาและชำระเงินมัดจำ หลังตกลงราคาเรียบร้อย จะเข้าสู่การลงนามสัญญาซื้อขาย และเตรียมเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ โดยชำระค่าธรรมเนียมและภาษีทั้งหมดในขั้นตอนสุดท้าย

ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการซื้อประกอบด้วยเงินดาวน์ (ประมาณ 10-20% ของราคาซื้อ), ค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่าธรรมเนียมตัวแทน (ราว 3% ของราคาซื้อ), ค่าประกันอัคคีภัย, ค่าประเมินทรัพย์สิน และภาษีการซื้อทรัพย์สิน (3-4% ของราคาทรัพย์สิน) นอกจากนี้ อาจมีค่าบำรุงรักษาส่วนกลางในกรณีซื้อคอนโด

ค่าใช้จ่ายหลักได้แก่ ภาษีการโอนกรรมสิทธิ์ (ประมาณ 0.1-2% ของราคาประเมิน), ภาษีการได้มาซึ่งทรัพย์สิน (3-4% ของราคาซื้อ), ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี (1.4% ของราคาประเมิน) และภาษีเมือง (0.3% ในบางพื้นที่) นอกจากนี้ หากเป็นคอนโดมิเนียมยังมีค่าบำรุงรักษาส่วนกลางและกองทุนสำรองการซ่อมแซมซึ่งเรียกเก็บรายเดือนหรือรายปี

สามารถทำได้ หากมีคุณสมบัติตรงตามที่ธนาคารกำหนด เช่น ประวัติการทำงานมั่นคง รายได้ต่อปีที่เหมาะสม และเงินดาวน์พร้อมจ่าย ชินยูมีพาร์ทเนอร์กับธนาคารที่ญี่ปุ่นที่พร้อมซัพพอร์ตลูกค้าชาวต่างชาติ ทีมงานจะช่วยประสานงานและแนะนำเอกสารที่จำเป็นเพื่อให้การขอสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่น